home about us service property for sale news firm achievement contact
 

   บริษัทได้จัดแบ่งสายงานที่รับผิดชอบงานด้านการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ โดยสายงานดังกล่าวมีหน้าที่ในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการโดยเฉพาะ ซึ่ง ดร.วิทยา จังสมบัติศิริ รองกรรมการผู้จัดการ ได้รับมอบหมายจากบริษัทให้เป็นผู้รับผิดชอบในฝ่ายงานดังกล่าว โดยมีนายสนทยา น้อยเจริญเป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้ ในการปฏิบัติงานเป็นผู้บริหารแผน บริษัทจะดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีไว้ด้วยเช่นกัน กล่าวคือ บริษัทจะบริหารแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ด้วยความรอบคอบ รับผิดชอบต่อการปฏิบัติงานด้วยความสามารถ และมีประสิทธิภาพอย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย ตลอดจนดูแลมิให้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน สำหรับแนวทางการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ มี ดังนี้

ผู้บริหารหลักที่ทำหน้าที่บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ดังกล่าวได้แก่
   นายสนทยา น้อยเจริญ ที่ปรึกษาอาวุโส จบการศึกษาในระดับมหาบัณฑิตทางด้านการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน จากสถาบันบันฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยมีประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศไทย เป็นระยะเวลากว่า ๑๘ ปี และดำรงตำแหน่งล่าสุด เป็นผู้จัดการฝ่ายนิติการ ( First Vice President ) ของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ในประสบการณ์ที่ผ่านมาดังกล่าว ได้เคยปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ สำนักงานใหญ่ ของธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ โดยได้นำลูกหนี้รายใหญ่ของธนาคารเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เช่น บริษัท อุตสาหกรรมท่อสตีมเหล็กกล้า จำกัด , บริษัท ปัญจพล เปเปอร์ อินดัสตรี้ย์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ทั้งนี้ ในการปฏิบัติงานดังกล่าวได้รับมอบหมายให้เป็นคณะกรรมการเจ้าหนี้ของบริษัทที่ผ่านการฟื้นฟูกิจการอีกด้วย นอกจากนี้ นายสนทยา น้อยเจริญ ยังเคยดำรงตำแหน่งเป็น กรรมการบริหาร ในบริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ จำกัด (มหาชน) โดยทั้งสองบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   ดร.วิทยา จังสมบัติศิริ จบปริญญาเอกทางด้านการบริหาร วางแผน วิศวอุตสาหการ โดยเน้นหนักการศึกษาในเชิงการบริหารจัดการ ที่มุงเน้นในการนำวิชาการสมัยใหม่ต่าง ๆ มาพัฒนาด้านการบริหารองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดประสิทธิผลโดยรวมต่อการบริหารกิจการซึ่งจะทำให้เกิดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาเน้นหนักในด้านนำดัชนีชี้วัดต่าง ๆ มาเป็นเครื่องมือในการวัดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลขององค์กรและ หรือ หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งดัชนีชี้วัดดังกล่าวได้แก่ ระบบ Balance Score Card เป็นต้น และเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมเท่าที่จำเป็นตลอดจนจะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุด และในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ดร.วิทยา ยังได้มีประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นเครื่องชี้วัดประสบการณ์การทำงานดังกล่าวได้แก่ การสามารถสอบผ่าน CFA ในระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดทางด้านการเงินที่ได้ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกประเทศ

สำหรับแนวทางในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ สีลม แอดไวซอรี่ ได้กำหนดโครงสร้างในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการไว้ดังนี้

   ในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ สีลม แอดไวซอรี่ ได้กำหนดโครงสร้างในการบริหารแผนไว้ 3 ด้าน ซึ่งเป็นงานหลักของการบริหารแผน ซึ่งได้แก่ ในด้านการจัดการการเงิน , การจัดการด้านปฏิบัติการ และการจัดการเชิงกลยุทธ์ อาจกล่าวได้ว่า ลูกหนี้ที่ได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้และศาลล้มละลายให้ดำเนินการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว จะมีระยะเวลาอันจำกัด ในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ดังนั้น แนวทางทั้งสามดังกล่าว จึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการและดำเนินการภายใต้ระยะเวลาตามแผนที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ดังมีสาระสำคัญโดยย่อ ดังนี้

   ก. ด้านการจัดการทางการเงิน ลูกหนี้ที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีการดำเนินการแก้ไขโครงสร้างของทุน ไม่ว่า จะเป็นการลดทุน เพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้น หรือ ผู้ลงทุนรายใหม่ การดำเนินการทางการเงินในส่วนนี้จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และหากลูกหนี้ดังกล่าวเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดการทางการเงินในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย สีลม แอดไวซอรี่ จะสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามแผนได้ ทั้งนี้ เนื่องจากบุคลากร ของสีลม ประกอบด้วยผู้มีประสบการณ์ในด้านการเงิน , บัญชี และกฎหมาย

   ข. ด้านการจัดการปฏิบัติการ ในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การดำเนินการธุรกิจหลักของลูกหนี้จะต้องได้รับการเร่งรัดให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้บริหารของสีลม แอดไวซอรี่ ทั้ง คุณสนทยา น้อยเจริญ และคุณวิทยา จังสมบัติศิริ มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งจะทำให้การบริหารธุรกิจของลูกหนี้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตาม ในหลักการของการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ จะแสวงหาความร่วมมืออย่างเต็มที่จากผู้บริหารและผู้ถือหุ้นของลูกหนี้ เพื่อร่วมมือกันในการบริหารธุรกิจของลูกหนี้ให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดไว้ ในขณะเดียวกัน ก็เร่งดำเนินการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้แก่ลูกหนี้ในการสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องและมั่นคงให้กับลูกหนี้ต่อไป

   ค. ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ การจัดการเชิงกลยุทธ์ เป็นหัวใจหลักของการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ที่จะทำให้บริษัทลูกหนี้สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างมั่นคง และต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารของบริษัทเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ ในการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ อันจะทำให้สามารถแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ว่า จะเป็น ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และคู่แข่งขัน เพื่อเสริมสร้างให้ลูกหนี้สามารถกลับเข้ามาสู่ตลาดได้อีกครั้งหนึ่ง และที่สำคัญ เพื่อให้ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนได้เข้าใจถึงการวัดประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน จะมีการนำเครื่องมือชี้วัดใหม่ ๆ เช่น หลักการวัดผลการปฏิบัติงาน Balance Score card มาเป็นเครื่องมือในการวัดผลการปฏิบัติงาน เป็นต้น
 บริษัทฯ ได้กำหนดค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เป็นรายชั่วโมง โดยคำนวณจากมูลค่าของงานที่ได้ทำจริง และมีกำหนดเพดานของค่าใช้จ่ายสูงสุดไว้ เพื่อให้คณะกรรมการเจ้าหนี้ และผู้เกี่ยวข้องได้ทราบ สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดและธุรกรรมของบริษัทลูกหนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ประมาณเดือนละ 300,000 – 700,000 บาท ทั้งนี้ ในการคิดคำนวณค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น 
 

Home
| About us | Service | Property for sale | News | Firm Achievement | Contact us

Silom Asvisory Services Co.,Ltd. Copyright © 2011